รู้จักโรคริดสีดวงทวาร: อาการ สาเหตุ และวิธีป้องกันที่คุณควรรู้

Hemorrhoids

ริดสีดวงทวารคืออะไร?

ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids) เป็นอาการที่เกิดจากเส้นเลือดในบริเวณทวารหนักและลำไส้ใหญ่ส่วนปลายบวมและอักเสบ มักจะเกิดในผู้ที่มีปัญหาเรื่องการถ่ายอุจจาระ เช่น ท้องผูกหรือท้องเสียบ่อย ๆ นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการยืนหรือนั่งเป็นเวลานาน ๆ หญิงตั้งครรภ์ก็มีโอกาสที่จะเกิดริดสีดวงทวารได้เช่นกัน เนื่องจากน้ำหนักของทารกในครรภ์กดทับเส้นเลือดในบริเวณเชิงกราน

ริดสีดวงทวารแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่:

  1. ริดสีดวงทวารภายใน (Internal Hemorrhoids)
  2. ริดสีดวงทวารภายนอก (External Hemorrhoids)
  3. ริดสีดวงทวารผสม ()

ริดสีดวงทวารภายใน

ริดสีดวงทวารภายในเป็นริดสีดวงที่เกิดขึ้นภายในลำไส้ตรงหรือทวารหนักด้านใน ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่อาจรู้สึกได้ในขณะที่ถ่ายอุจจาระ ผู้ป่วยมักไม่รู้ตัวว่ามีริดสีดวงทวารภายในจนกระทั่งมีเลือดออกหรือรู้สึกเจ็บขณะถ่ายอุจจาระ

ลักษณะสำคัญของริดสีดวงทวารภายในคือการที่มันไม่ค่อยมีอาการเจ็บปวดจนกว่าจะมีการอักเสบหรือมีขนาดใหญ่พอที่จะยื่นออกมาจากทวารหนัก เนื่องจากเส้นประสาทในบริเวณลำไส้ตรงด้านในมีความไวต่อความเจ็บปวดน้อยกว่าบริเวณภายนอก

ระยะของริดสีดวงทวารภายใน

ริดสีดวงทวารภายในแบ่งออกเป็น 4 ระยะตามระดับความรุนแรง:

  • ระยะที่ 1: ริดสีดวงยังอยู่ในทวารหนัก ไม่ยื่นออกมานอกทวาร อาจมีเลือดออกเล็กน้อย
  • ระยะที่ 2: ริดสีดวงยื่นออกมาขณะถ่ายอุจจาระ แต่สามารถกลับเข้าไปได้เอง
  • ระยะที่ 3: ริดสีดวงยื่นออกมาและไม่สามารถกลับเข้าไปได้เอง ต้องใช้มือช่วยดันกลับ
  • ระยะที่ 4: ริดสีดวงยื่นออกมาและไม่สามารถดันกลับเข้าไปได้ อาจมีการอักเสบหรือเกิดภาวะแทรกซ้อน

อาการของริดสีดวงทวารภายใน

ผู้ป่วยมักจะไม่รู้สึกถึงริดสีดวงทวารภายในในระยะแรก ๆ เนื่องจากอาการมักจะไม่เด่นชัด อย่างไรก็ตาม เมื่อริดสีดวงมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือมีภาวะแทรกซ้อน เช่น การอักเสบ อาจมีอาการต่อไปนี้:

  • เลือดออกทางทวารหนักขณะถ่ายอุจจาระ
  • รู้สึกไม่สบายขณะถ่ายอุจจาระ
  • รู้สึกว่ามีก้อนเนื้อยื่นออกมาจากทวารหนัก
  • อาการคันหรือระคายเคืองบริเวณทวารหนัก

ริดสีดวงทวารภายนอก

ริดสีดวงทวารภายนอกเป็นริดสีดวงที่เกิดขึ้นบริเวณภายนอกของทวารหนัก สามารถมองเห็นและรู้สึกได้ ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บปวดและไม่สบายตัวมากกว่าริดสีดวงทวารภายใน เนื่องจากเส้นประสาทในบริเวณนี้มีความไวต่อความเจ็บปวดมากกว่า

ลักษณะของริดสีดวงทวารภายนอก

ริดสีดวงทวารภายนอกสามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นก้อนเนื้อที่ยื่นออกมาจากทวารหนัก ก้อนเนื้อเหล่านี้มักจะบวมและแข็ง และในบางกรณีอาจมีการอักเสบหรือเลือดออก นอกจากนี้ผู้ป่วยอาจรู้สึกคันหรือแสบร้อนบริเวณทวารหนัก

อาการของริดสีดวงทวารภายนอก

ริดสีดวงทวารภายนอกมักจะมีอาการเด่นชัดมากกว่าริดสีดวงทวารภายใน ผู้ป่วยจะรู้สึกไม่สบายขณะนั่งหรือเดิน รวมถึงอาการอื่น ๆ เช่น:

  • ปวดหรือรู้สึกเจ็บแสบบริเวณทวารหนัก
  • มีก้อนเนื้อหรือบวมที่ทวารหนัก
  • มีเลือดออกขณะถ่ายอุจจาระ
  • คันหรือแสบร้อนบริเวณทวารหนัก

ริดสีดวงทวารผสม

ริดสีดวงทวารผสมคือการที่ผู้ป่วยมีริดสีดวงทั้งภายในและภายนอกพร้อมกัน เป็นภาวะที่ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบายมากที่สุดเนื่องจากมีอาการทั้งจากริดสีดวงทวารภายในและภายนอก

ริดสีดวงทวารผสมอาจเกิดจากการที่ริดสีดวงภายในลุกลามจนเกิดภายนอก หรือเกิดจากการที่ผู้ป่วยมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารและการถ่ายอุจจาระอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความดันในเส้นเลือดทั้งภายในและภายนอกพร้อมกัน

การรักษาริดสีดวงทวาร

การรักษาริดสีดวงทวารมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ และประเภทของริดสีดวง วิธีที่นิยมใช้ในการรักษามีดังนี้:

  1. การใช้ยาทาและยาเหน็บ: ยาทาหรือยาเหน็บที่ใช้รักษาริดสีดวงมักมีส่วนผสมของสารที่ช่วยลดการอักเสบ บรรเทาอาการเจ็บปวด และช่วยให้เส้นเลือดหดตัว

  2. การรับประทานยา: สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมาก แพทย์อาจสั่งจ่ายยาที่ช่วยลดการอักเสบหรือเสริมการไหลเวียนของเลือด

  3. การทำศัลยกรรม: สำหรับผู้ป่วยที่มีริดสีดวงทวารในระยะรุนแรง แพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัดเพื่อเอาก้อนริดสีดวงออก

  4. การรักษาด้วยเลเซอร์หรือการผูกเส้นเลือด: การรักษาริดสีดวงด้วยวิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดและใช้เวลาในการฟื้นตัวน้อย

การป้องกันริดสีดวงทวาร

การป้องกันริดสีดวงทวารที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขภาพระบบทางเดินอาหารและลดปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดริดสีดวง คำแนะนำสำหรับการป้องกันมีดังนี้:

  • ดื่มน้ำมาก ๆ: การดื่มน้ำเพียงพอช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น
  • กินอาหารที่มีเส้นใยสูง: อาหารที่มีเส้นใยสูงช่วยให้อุจจาระนุ่มและผ่านลำไส้ได้ง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการท้องผูก
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้นและลดความเสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวง
  • หลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนเป็นเวลานาน ๆ: การนั่งหรือยืนเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดความดันในเส้นเลือดบริเวณท