คุณเคยมีอาการแบบนี้หรือไม่ ?? มองเห็นภาพไม่ชัด ตามัว โดยเฉพาะตรงกลางของภาพที่มอง มองเห็นเป็นภาพดำๆ บังอยู่กลางภาพ ภาพที่มองอาจจะบิดเบี้ยว และจะยิ่งบิดเบี้ยวมากขึ้นถ้ามองในระยะที่ใกล้ มองเห็นเส้นเป็นคลื่นๆ นอกจากนี้การมองเห็นในสภาวะแสงสลัวยังไม่ดี จำเป็นต้องอาศัยแสงสว่างในการมองเห็นมากกว่าปกติ ถ้าพบอาการเหล่านี้ แสดงว่าคุณอาจเป็น ‘โรคจอประสาทตาเสื่อม’
หนี่งในปัญหาโรคเกี่ยวกับดวงตา ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการสูญเสียการมองเห็นในอนาคตที่น่ากลัวอีกโรคหนึ่งก็คือ โรคจอประสาทตาเสื่อม ถือเป็นโรคตั้งต้นที่จะนำไปสู่ภาวะสูญเสียการมองเห็นในอนาคต มักเริ่มพบในคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และด้วยโลกยุคดิจิตอล ปัจจุบัน โอกาสที่จะพบโรคนี้ได้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นตั้งแต่อายุยังน้อย
ก่อนที่เราจะรู้ว่ามีปัจจัยที่ทำให้จอประสาทตาเสื่อมมีอะไรบ้าง มารู้ก่อนว่าโรคจอประสาทตาเสื่อมแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ก็คือ จอประสาทตาเสื่อมชนิดแห้ง (Dry AMD) และ ชนิดเปียก (Wet AMD) โดยชนิดแห้งพบมากถึง 90% อาการมักจะเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป จึงทำให้ความสามารถในการมองเห็นของผู้ป่วยลดลงอย่างช้า ๆ โดยพบว่าเกิดจากการเสื่อมสลายและบางลงของจุดภาพชัด (Macula) จากกระบวนการเสื่อมตามอายุ โดยไม่มีรอยแผลเป็นหรือมีเลือดออก
ส่วนชนิดเปียก พบได้ 10-15% ซึ่งมักจะเป็นคนที่มีอาการจอประสาทตาเสื่อมชนิดแห้งนำมาก่อน อาการมักเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและรุนแรง เกิดการหลอดเลือดที่ผิดปกติ เกิดการแตกหรือรั่วซึมจึงทำให้มีเลือดและของเหลวค้างอยู่ใต้จอประสาทตา ทำให้จุดภาพชัดบวมและเกิดการทำลายจอประสาทตา ทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างรวดเร็ว และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตาบอดได้
สาเหตุของโรคจอประสาทตาเสื่อม
- อายุ : แน่นอนว่าการเสื่อมถอยของดวงตาจนเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม มาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น
- พันธุกรรม : หากพบว่าคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคนี้มาก่อน ก็อาจส่งผลให้คนอื่นๆ เป็นได้เช่นกัน ดังนั้นหากมีพ่อ แม่ ญาติพี่น้องเป็นโรคนี้ควรต้องได้รับการตรวจเช็คจอประสาทตาปีละ 1 ครั้งเป็นอย่างน้อย
- การสูบบุหรี่ : การสูบบุหรี่นอกจากจะส่งผลเสียกับระบบต่างๆ ในร่างกายแล้ว ยังทำให้เสี่ยงโอกาสการเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมได้มากว่าคนปกติที่ไม่ได้สูบบุหรี่มากถึง 4-6 เท่า เพราะบรรดาสารพิษที่อยู่ในบุหรี่จะทำลายเซลล์ของจอประสาทตาโดยตรง
- ขาดสารอาหาร : การที่เราไม่ทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ และขาดสารต้านอนุมูลอิสระหรือสารอาหารสำหรับบำรุงดวงตาบางชนิด โดยเฉพาะลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) เป็นผลทำให้จอประสาทตาเสื่อมได้
- ดวงตาสัมผัสกับแสงเป็นประจำ : แสงในที่นี้นอกจากแสงแดดที่มีรังสียูวีแล้ว ยังรวมถึงแสงสีฟ้า (Blue Light) ที่ส่งผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์, จอของสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ดิจิตอลต่างๆ ดังนั้นการอยู่ในที่ซึ่งมีแสงจ้า หรือใช้ดวงตาเพ่งทำกิจกรรมในที่ซึ่งมีแสงน้อย ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ทั้งสิ้น
ขั้นตอนป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม
ถึงแม้ว่าโรคจอประสาทเสื่อมจะมีหลายสาเหตุเข้ามาเกี่ยวกับ รวมถึงปัจจัยทางด้านอายุ อีกทั้งยังไม่มีวิธีป้องกันที่ดีที่สุด แต่ก็วิธีที่จะสามารถชะลอโรคเพื่อยืดเวลา ลดความเสื่อมออกไปได้ ด้วยวิธีต่างๆ เหล่านี้
สวมแว่นตากันแดดเวลาอยู่ในที่แสงจ้า และหลีกเลี่ยงใช้สายตาในที่มืด
การสวมแว่นตากันแดดที่มีสารเคลือบป้องกันแสงยูวีเป็นประจำเวลาอยู่ในที่มีแสงจ้า สามารถที่จะช่วยป้องกันแสงยูวีทำลายจอประสาทตาได้ รวมถึงการลดพฤติกรรมการใช้สายตาในที่มืด เช่น อ่านหนังสือในที่ซึ่งมีแสงน้อย หรือเล่นโทรศัพท์ในขณะที่ปิดไฟ
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เป็นความจริงที่การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ สามารถส่งผลเสียต่อดวงตาได้ สารพิษในแอลกอฮอล์จะทำลายเส้นประสาทตา ส่งผลต่อการมองเห็น เนื่องจากแอลกอฮอล์จะไปลดการไหลเวียนของเลือดที่ไปเลี้ยงจอประสาทตา ท้ายที่สุดก็จะเป็นโรคจอประสาทตาถาวร และพัฒนาไปสู่การเป็นต้อกระจก ต้อหิน ได้ในอนาคต
งดการสูบบุหรี่
นอกจากจะสร้างผลเสียกับระบบต่างๆ ของร่างกายแล้ว สารพิษในบุหรี่ยังทำลายเซลล์จอประสาทตา มีผลการวิจัยทางการแพทย์ในต่างประเทศพบว่า คนที่สูบบุหรี่จะเสี่ยงเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมได้เร็วกว่าคนที่ไม่สูบสูงถึง 6 เท่า และเร่งให้เกิดโรคนี้เร็วขึ้นกว่าคนปกติถึง 10 เท่า
หลีกเลี่ยงการทานอาหารประเภทไขมันและคอเลสเตอรอลสูง
การทานอาหารที่มีไขมันและคอเลสเตอรอลสูง เช่น หมูติดมัน หนังไก่ หอยนางรม อาหารจำพวกแป้ง ฯลฯ นอกจากจะส่งผล ทำให้เสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจแล้ว ซึ่งจะนำไปสู่การเสี่ยงต่อการแตกของเส้นเลือดบริเวณจอประสาทตาได้ด้วย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้เพื่อสุขภาพที่ดีของดวงตา
ทานผักและผลไม้ โดยเฉพาะผักใบเขียวเพื่อให้ได้สารอาหารที่จำเป็น
มีข้อมูลจากจักษุแพทย์และนักโภชนาการให้ข้อมูลตรงกันว่า อาหารจำเป็นที่สามารถช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมได้จริง ก็คือ Lutein และ Zeaxanthin ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยให้ประสิทธิภาพการมองเห็นได้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยกรองแสงสีฟ้ามากระทบดวงตาได้ ซึ่งพบมาในอาหารธรรมชาติจำพวกพืชผัก ผลไม้ที่มีสีเขียวเข้ม และสีเหลือง เช่น ผักคะน้า ผักปวยเล้ง ผักโขม และข้าวโพด นอกจากนี้ยังพบว่าการทาน 2 สารอาหารนี้เป็นประจำจะช่วยชะลอ และลดโอกาสของการเกิดต้อกระจกลงได้ นอกจากนี้สารอาหารประเภท Betacarotene ที่พบมากในอาหารจำพวกแครอท มันเทศหวาน แคนตาลูป ฟักทอง ยังเป็นตัวช่วยบำรุงสายตา และชะลอความเสื่อมของเลนส์ตาอีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้นสารอาหารจำเป็นอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมได้แก่ Vitamin E ที่ช่วยปกป้องสายตาจากแสงแดด พบมากในอาหารจำพวกถั่วอัลมอนด์ เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ข้าวกล้อง ถั่วเมล็ดแห้ง และงา Vitamin C พบมากในอาหารจำพวกผักผลไม้ เช่น พริกหวาน มะเขือเทศ ส้ม และสับปะรด ฝรั่ง มะละกอ โดยวิตามินชนิดนี้จะช่วยให้หลอดเลือดฝอยแข็งแรง และป้องกันจอประสาทตาเสื่อมได้
ส่วน Omega-3 ที่เป็นกรดไขมันจำเป็นซึ่งพบมากในปลาแองโชวี ปลาทูน่า ปลากระพง ปลาแมคคอเรล ปลาแซลมอน ฯลฯ ก็ช่วยป้องกันจอประสาทตาเสื่อมได้เช่นกัน เพราะสารอาหารนี้เป็นกรดไขมันจำเป็นที่อยู่ในดวงตาของเรา จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา และชะลอภาวะจอประสาทตาเสื่อมได้
สารอาหารสำหรับป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมในรูปแบบของ ‘อาหารเสริม’
ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่รวมเอาสารอาหารที่จำเป็นในการป้องกันโรคจอประสาทตาในรูปแบบของอาหารเสริมอยู่ในตลาดมากมาย และมีหลายคนใช้วิธีนี้เป็นทางเลือกในการรับสารอาหารสำคัญในการดูแลดวงตาเข้าสู่ร่างกาย แต่การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพก็ต้องอาศัยความรู้ในตัดสินใจ เช่น ต้องดูมาตรฐานการผลิตที่ไว้ใจได้ มีความน่าเชื่อถือ รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่สะอาด เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องการันตีได้ว่า เราเลือกสิ่งที่ดีที่สุดในการบำรุงดวงตาและป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมได้อย่างถูกต้องให้กับร่างกาย
วันนี้เราสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่คิดค้นด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่ VISHERB -โดยสกัดมาจากธรรมชาติเข้มข้นที่ช่วยฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อตาและปรับปรุงสภาพของเลนส์ตาซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการมองเห็นที่ดีได้ เมื่อรวมกับการออกกำลังกายสายตาการ จะทำให้การทาน VISHERB ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนในเวลาที่สั้นที่สุดและช่วยหลีกเลี่ยงการผ่าตัดได้ค่ะ
VISHERB ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ 100% ไม่มีผลข้างเคียง และให้ผลลัพธ์ที่ทำให้สุขภาพดวงตาดีขึ้น
- ผงมากิเบอร์รี่: ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันอาการอ่อนล้าจากการใช้สายตาอย่างหนัก ลดอาการตาแห้ง
- ผงอะโวคาโด: ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันอาการตาฝ้าฟาง ช่วยชะลอการเสื่อมดวงตาตามวัย
- สารสกัดจากดาวเรือง: ช่วยป้องกันความเสื่อมของจอประสาทตา ช่วยกรองแสงสีฟ้า เป็นสารออกซิเดชั่น ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ
- น้ำมันเมล็ดลินิน: ลดภาวะตาแห้ง และตามัวตอนกลางคืน ป้องกันต้อกระจก ต้อหินกระจกตาโป่งพอง ป้องกันโรคตาแห้งและโรคจอประสาทตาเสื่อม ป้องกันเส้นประสาทตาอักเสบ
- สารสกัดจากสาหร่ายแดง: ช่วยเพิ่มน้ำหล่อลื่นในดวงตา เพิ่มการมองเห็น ลดอาการตาแห้ง ปวดตา ปรับสมดุลแรงดันในลูกตา
ผลิตภัณฑ์นี้ผ่านการทดสอบโดยศูนย์วิจัยต่างๆและโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป!
คุณสมบัติพิเศษของ VISHERB
- สารแอนโธไซยานิน : ช่วยการบำรุงสายตา ป้องกันอาการอ่อนล้ำจากการใช้สายตาอย่างหนัก ช่วยลดอาการตาแห้ง
- ลูทีน และซีแซนทีน : มีคุณสมบัติช่วยป้องกันความเสื่อมของจอประสาทตาได้ ช่วยกรองแสงสีฟ้า ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ
- วิตามิน เอ บี2 บี6 บี12 และสังกะสี : ลดภาวะตาแห้ง และตามัวตอนกลางคืน ป้องกันต้อกระจก ต้อหินกระจกตาโป่งพอง
- ลูทีน เบต้าแคโรทีน : ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันอาการตาฝ้าฟาง ช่วยชะลอการเสื่อม สภาพดวงตาที่ร่วงโรยไปตามวัย
ความคิดเห็นของลูกค้าที่ได้ทาน VISHERB เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง
ปกป้อง บำรุง ดูแล สายตาของคุณตอนนี้!