โรคนิ่วในไตเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในคนไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนและผู้คนดื่มน้ำน้อย การเกิดนิ่วในไตไม่เพียงสร้างความเจ็บปวดอย่างรุนแรง แต่ยังเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรือไตวายเฉียบพลัน หลายคนรู้จักวิธีการรักษามาตรฐาน เช่น การผ่าตัดหรือการสลายนิ่วด้วยคลื่น แต่ยังมีอีกหลายวิธีที่อาจไม่เป็นที่รู้จักมากนัก
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักสาเหตุ อาการ การรักษาหลากหลายรูปแบบ และวิธีดูแลตัวเองเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดนิ่วซ้ำ พร้อมทั้งให้คำแนะนำด้านโภชนาการและการป้องกัน เพื่อให้คุณมีสุขภาพไตแข็งแรงตลอดไป
สาเหตุของการเกิดนิ่วในไต
การดื่มน้ำน้อย
หนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดนิ่วในไตคือการดื่มน้ำไม่เพียงพอ ทำให้ปัสสาวะมีความเข้มข้นสูงและเกิดการตกผลึกของแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม ออกซาเลต และกรดยูริก
อาหารที่มีสารออกซาเลตสูง
อาหารบางชนิด เช่น ผักโขม ช็อกโกแลต ถั่วลิสง และชาดำ มีปริมาณออกซาเลตสูง ซึ่งเมื่อรวมกับแคลเซียมจะเกิดการตกผลึกเป็นนิ่ว
การบริโภคโปรตีนสัตว์มากเกินไป
โปรตีนจากเนื้อสัตว์สามารถเพิ่มระดับกรดยูริกในร่างกาย ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของนิ่วในไต
ปัจจัยทางพันธุกรรม
หากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนิ่วในไต ความเสี่ยงในการเกิดโรคก็จะสูงขึ้น
อาการที่ควรระวัง
-
ปวดหลังหรือสีข้างรุนแรง มักปวดเป็นพัก ๆ
-
ปัสสาวะมีเลือดปน
-
ปัสสาวะขุ่นหรือมีกลิ่นผิดปกติ
-
คลื่นไส้ อาเจียน
-
ปัสสาวะบ่อยหรือปัสสาวะลำบาก
วิธีการรักษาโรคนิ่วในไต
1. การดื่มน้ำมาก ๆ และเฝ้าระวังอาการ
สำหรับนิ่วขนาดเล็ก (น้อยกว่า 5 มม.) การดื่มน้ำ 2–3 ลิตรต่อวัน และใช้ยาลดปวดอาจเพียงพอให้นิ่วหลุดออกเอง
2. การใช้ยาละลายนิ่ว
ยาบางชนิด เช่น ยาลดกรดยูริก หรือยาที่ช่วยลดแคลเซียมในปัสสาวะ สามารถช่วยให้ก้อนนิ่วสลายหรือเล็กลงได้
3. การสลายนิ่วด้วยคลื่นกระแทก (ESWL)
ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อทำให้นิ่วแตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ และขับออกทางปัสสาวะ เหมาะกับนิ่วขนาดกลาง
4. การผ่าตัดส่องกล้อง (Ureteroscopy, PCNL)
ใช้กล้องขนาดเล็กสอดเข้าไปในทางเดินปัสสาวะเพื่อเอานิ่วออก เหมาะสำหรับนิ่วขนาดใหญ่หรืออยู่ในตำแหน่งที่เข้าถึงยาก
5. การรักษาทางเลือกและสมุนไพร
-
น้ำมะนาว: กรดซิตริกช่วยป้องกันการเกิดนิ่วแคลเซียมออกซาเลต
-
น้ำมะขามป้อม: มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและช่วยขับปัสสาวะ
-
ชาสมุนไพรขับปัสสาวะ เช่น หญ้าหนวดแมว
คำแนะนำด้านโภชนาการ
-
ดื่มน้ำอย่างน้อย 8–10 แก้วต่อวัน
-
ลดการกินอาหารเค็ม เพราะโซเดียมสูงเพิ่มความเสี่ยงนิ่วแคลเซียม
-
จำกัดอาหารที่มีออกซาเลตสูง เช่น ช็อกโกแลต ผักโขม ถั่วลิสง
-
กินโปรตีนจากพืชมากขึ้น เช่น ถั่วเหลือง แทนการกินเนื้อแดงบ่อย
-
เพิ่มผักและผลไม้สดที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย มะละกอ
การป้องกันไม่ให้เกิดนิ่วซ้ำ
-
ตรวจสุขภาพไตเป็นประจำ
-
รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์
-
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
-
ไม่กลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน
FAQ – คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรคนิ่วในไต
นิ่วในไตสามารถหายได้เองหรือไม่?
นิ่วขนาดเล็กอาจหลุดออกเองได้ด้วยการดื่มน้ำมาก ๆ และใช้ยาลดปวด แต่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
ดื่มน้ำอะไรดีที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงนิ่วในไต?
น้ำเปล่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด รองลงมาคือน้ำมะนาวหรือน้ำสมุนไพรขับปัสสาวะ
การกินนมทำให้เกิดนิ่วในไตหรือไม่?
ไม่เสมอไป การได้รับแคลเซียมจากอาหารในปริมาณเหมาะสมช่วยป้องกันนิ่วได้ แต่การเสริมแคลเซียมเกินความจำเป็นอาจเพิ่มความเสี่ยง
ควรตรวจไตบ่อยแค่ไหน?
หากไม่มีอาการผิดปกติ ควรตรวจสุขภาพประจำปี แต่ถ้ามีประวัตินิ่ว ควรตรวจทุก 6 เดือน